วิธีเลือกซื้อน้ำหอมแบบไม่โดนกดดันที่เคาน์เตอร์แบรนด์

[Edward]

แนะนำการไปเลือกดมน้ำหอมที่เคาเตอร์แบบมืออาชีพ และจะไม่รู้สึกว่า BA กดดันเราเลย จะมีความสุขทั้งผู้ให้บริการและผู้รับบริการ
1.หาความต้องการแนวกลิ่นที่ชอบของตัวเองให้เจอก่อน ว่าจริงๆแล้วเราชอบแนวกลิ่นไหน ความเข้มข้นระดับไหน
2.หลักๆแนวกลิ่นจะมีประมาณนี้ citrus ,Foral,musk,wood,tobacco,Aqua,Green,oriental
3.ควรดมแค่ 3-4 กลิ่นเท่านั้น การรับรู้กลิ่นที่ถูกต้องและแม่นยำเต็มที่ควรดมแค่ 3-4 กลิ่น
4.หลังจากฉีดเราดมจะได้กลิ่น Top note (ส่วนใหญ่จะเป็นซีตรัสเพราะโมเลกุลขนาดเล็กจะส่งกลิ่นออกมาก่อน ซึ่งมันยังไม่ใช่กลิ่นที่จะอยู่กับเราไปทั้งวัน รอให้ผ่านไปสัก 2-3 นาทีก่อนกลิ่นจะจางลงแล้วเข้าสู่กลิ่นที่แท้จริงที่จะอยู่กับเราไปทั้งวัน
5. ถ้าต้องการเวลากับกลิ่นอีกสักพัก จะเอากระดาษไปเดินดม หรือจะเลือก 1 กลิ่นที่ชอบที่สุดให้ BA ฉีดที่ผิวแล้วดมและตัดสินใจก็ได้
6.แน่นอนว่าความคาดหวังของ BA ต้องการขายสินค้ากับเรา แต่ถ้าเลือกน้ำหอมแบบตรงประเด็นและใช้เวลาน้อย ต่างคนต่างไม่เสียเวลาซึ่งกันและกัน ถ้ากลิ่นมันไม่ใช่เราจริงๆ BA ก็เข้าใจ

[Natteera]

ส่วนใหญ่คนที่เดินเข้าเคาน์เตอร์ก้อจะมีกลิ่นหรือแบบที่อยากได้อยู่แล้ว ถ้าเจอBA บริการดียิ่งรู้สึกว่าได้มากยิ่งขึ้น

[Thitaree]

บางครั้งเราไปดมที่ชอบแล้วเลือกฉีดแต่ ba มักจะฉีดให้แค่จุดเดียว ถ้าเรามั่นใจแล้วบางทีเราก็ไปอีกวันค่ะไปลองกลิ่นที่เลือกไว้แล้ว แล้วฉีดตามจุดต่างๆที่ตัวแบบที่ฉีดปกติเลยค่ะจะได้รู้ว่าทนกับกลิ่นได้มั้ยหรือชอบมั้ย เราเคยพลาดแบบตอนฉีดที่ข้อมือหอมพอฉีดจริงๆเวียนค่ะหรือบางทีกลิ่นติดไม่ทน5555555

[Maytawin]

ฉันยังไม่เคยรู้สึกกดดันจาก BA เลย ชอบไปดมกลิ่นน้ำหอมก่อนตัดสินใจ แม้ยังไม่ซื้อ BA ก็ไม่ว่าอะไรหรือชักสีหน้าใส่ค่ะ สยามพารากอนนะคะ ทุกยี่ห้อเลยค่ะ เอากระดาษเทสกลับบ้าน สั่งจากออนไลน์หรือเคาน์เตอร์ แล้วแต่ความสะดวกค่ะ

[Mooklin]

BA ก็มีส่วนในการเลือกซื้อค่ะ เจอมาหลายแบบ ถ้ามี BA ประจำจะดีที่สุดค่ะ
เค้าจะแนะนำเราได้ดีว่าเราเหมาะกับกลิ่นประมาณไหน รู้ว่าเราชอบอะไร ช่วยเลือกได้ โดยที่เราไม่ได้รู้สึกกดดัน 😍

[Atchara]

@Mooklin อันนี้จริง เรามี BA ประจำเลยค่ะ เวลาจะไปที่ Chanel เราจะเรียกหาแต่คนเดิมค่ะ

[Chalisa]

อยากให้เมืองไทยแจกแซมเปิ้ลให้ไปใช้ได้แบบต่างประเทศบ้างนะคะ

[Nuploy]

ทำใจค่ะ ถ้าว่าไม่สนิทกับ ba เอาจริงๆว่าวิธีขายของเคาน์เตอร์แบรนด์จะเป็นประมาณนั้นค่ะ ฟิลแบบกดดันบ้าง ชักสีหน้าบ้าง หาได้น้อยค่ะที่เต็มใจให้เราลอง เพราะด้วยตัวน้ำหอมเค้าเหมือนมีคอนเซปว่าผลิตมาแล้วแบบลูกค้าดมจะต้องตัดสินใจได้เลย น้ำหอมดีไซน์เนอร์ทั่วไปเลยไม่มีเลเยอร์กลิ่นค่ะ ถ้าอยากได้สบายใจ เพิ่งเงินมาหน่อย คุณภาพดีกว่าหลายเท่า ติดทนดีกว่า คนขายไม่ฮาร์ดเซล ไปซื้อน้ำหอมนิชค่ะ คนขายเค้าจะไม่ให้เราซื้อเลยค่ะ เค้าจะให้ลองจนกว่าเราจะเจอกลิ่น เจอขวดที่เราถูกใจ เราค่อยซื้อ แล้วเค้าจะมีความรู้แนะนำเราได้ ตอบได้ทุกคนถาม คือซื้อแล้วรู้สึกไม่เสียดายเงิน ทุกวันนี้เราก็ไม่ได้ซื้อน้ำหอมแมสอีกเลยค่ะ แต่ถ้าซื้อน้ำหอมดีไซน์เนอร์ แต่เป็นลาย private จากที่สักเกตุมานะคะ คนขายเค้าก็จะเข้าใจไม่ได้มีอาการไม่ดีอะไร เพราะน้ำหอมมันมีเลเยอร์ของกลิ่น ต้องรอดรายดาวน์ค่ะ 🤣🤣🤣 (เราได้ความรู้มาตั้งแต่เราเล่นน่ำหอมนิชค่า)

[Edward]

@Nuploy ผมว่าถ้าเรารู้ความต้องการของเราก่อนจะง่ายต่อการค้นหากลิ่นมาก บางคนชอบกลิ่นดอกไม้แต่ไปดมแต่ wood สุดท้ายก็ไม่ตรงความต้องการสักที
**ไม่ใช่แค่ niche นะครับที่มีเลเยอร์กลิ่นน้ำหอมดีไซเนอร์ก็มีถ้าไม่แน่ใจแนวกลิ่นลองค้นหาดูใน fragrantica.com ครับ

[Nuploy]

@Edward ดีไซน์เนอร์ก็มีค่ะ แต่น้อยแล้วกลิ่นมันไม่ออกให้เรารู้สึกอ่ะ เอาจริงเราเคยเป็นค่ะ มันอยู่ที่คนขายว่าเค้ามีความรู้ มีประสบการณ์มาน้อยแค่ไหน คือหาคนทำการบ้านแล้วตอบคำถามเราได้ทุกอย่าง บอกแล้วแนะนำถูก หายากมาก เรารู้จักอยู่2คนที่เราซื้อด้วย แต่มันเป็นลายน้ำหอมนิช พี่มล ที่แอนตาลิเย่ เอ็มควอเทีย กับพี่เต้ย ที่พารากอนค่ะ แล้วก็ทอมฟอดสาขาสีลม ชื่อพี่เจน 3คนนี้ทำเราเสียเงินแบบ4-5แสน ซื้อน้ำหอม 😭😭😭😭 ตอนนี้ความรู้แน่นเชียะ ค่าความรู้ตุยมาก
ถ้าอยากรู้ว่าเราชอบแนวไหน ให้เราน้ำหอมที่เราใช้อยู่ไปเสิชให้เว็บ fragrantica มันจะบอกส่วนผสมค่ะ แล้วเวลาเราไปเลือกซื้อน้ำหอมให้เราหาส่วนผสมที่เราชอบในขวดอื่นประมาณนั้นค่ะจะง่ายขึ่น (เราแชร์วิธีของเรานะคะ) 😊😊

[Pojanee]

@Nuploy เม้นนี้ ดีงามมากก

[Tangmo]

@Nuploy เราก็ใช้วิธีเสิร์จส่วนผสมเหมือนกันค่ะ จนตอนนี้รู้แล้วว่าตัวเองชอบดอกอะไรบ้าง และก็เป็นแนว white floral วิธีนี้เวิร์คจริงค่ะ👍🏻

[ผู้เขียน]

ข้อความ