มุมมองความสำเร็จของแต่ละคนอาจจะมีความแตกต่างกัน แต่จุดๆ หนึ่งที่ทุกคนเหมือนกันนั้นก็คือ ทุกคนต้องการที่จะมี “ความสุข” ในความหลากหลายและความแตกต่างของผู้คนต่างมีนิยามความสำเร็จของแต่ละคนที่แตกต่างกัน บ้างฐานะ บ้างก็ความรัก บ้างก็คือการยอมรับ บ้างชื่อเสียง ในความต่างแต่ก็มีจุดที่เหมือนกัน นั้นก็คือก่อนที่ทุกๆ คนจะเดินไปถึงเป้าหมายของตัวเอง ทุกๆ คนต่างก็ต้องเดินทางฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ นาๆ กว่าจะไปถึง ในระหว่างทางถ้าคุณหยุด คุณยอมแพ้ก็ไปไม่ถึง ในระหว่างทางถ้าคุณไม่มีศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมคุณก็จะแพ้ ในระหว่างถ้าคุณหมดกำลังใจไปซะก่อนคุณก็ไปไมถึง เพราะแบบนั้น
“ความวิริยะ” การภาคเพียรทำสิ่งไรโดยไม่ยอมแพ้จึงเป็นหลักสำคัญอย่างหนึ่งที่จะนำความสำเร็จมาสู่ชีวิตคุณ
ในชีวิตของผมมีคนรอบข้างมากมายที่มีความฝัน อยากรวยบ้าง อยากมีคู่ชีวิตที่ดีบ้าง แต่คนที่สามารถทำสิ่งต่างๆ ได้ตามเป้าหมายกับมีเพียงจำกัด ไม่ใช่เพราะพวกเขาเก่ง ไม่เพราะพวกเขาโชคร้าย แต่เพราะพวกเขาหยุดที่จะฝันและทิ้งความฝันไปซะก่อนที่จะเดินไปถึง เพราะความสำเร็จมันเหมือนการเดินทางไกล ถ้ากำลังใจหมดลง ขาที่จะก้าวไปข้างหน้าก็หมดแรง ความฝันต่างๆ ก็จางหาย และสาเหตุที่ฝันของเขาจางหาย ความพยายามของพวกเขาหมดไปก็เพราะ
“ความเกียจคร้าน” และ “เชื่อฟังเสียงในใจด้านลบ”
คุณเคยไหมที่มีความตั้งใจอะไรซักอย่าง อย่างแรงกล้า เช่น การออกกำลังกายให้หุ่นดี การอ่านหนังสือเพื่อเตรียมสอบ โดยมีความตั้งใจว่าจะทำเท่านั้นเท่านี้ ต่อเนื่องไปทุกๆ วัน แต่เมื่อไปทำจริงๆ กลับทำได้น้อยกว่า กลับทำได้ไม่มากเท่าที่ตั้งใจ โดยที่ตัวคุณเชื่อเสียงด้านลบของหัวใจตัวเองว่า “พอเท่านี้แหละ แค่นี้เราก็ทำได้มากแล้ว พอเท่านี้แหละแค่นี้ก็ดีแล้ว หรือว่า พร่งนี้ค่อยทำก็ได้” คุณเป็นแบบนี้รึเปล่า ถ้าใช่ เส้นทางแห่งความสำเร็จมันก็ห่างไกลพอๆ กับจำนวนครั้งที่คุณยอมแพ้ มันเป็นการแพ้ที่ถาวรต่อความสำเร็จ เพราะมันแพ้ที่หัวใจ
ดังนั้นถ้าวันนี้คุณมีสิ่งที่คุณฝัน คุณมีความหวังที่จะเปลี่ยนตัวเอง คุณก็แค่ลงมือทำในสิ่งที่คุณฝัน คุณก็แค่ทำในสิ่งที่คุณหวัง ในระหว่างทางอาจจะมีผู้คนมากมายไม่เชื่อในสิ่งที่คุณทำ แต่ถ้าคุณเชื่อมั่นในตัวเองมากพอ สิ่งต่างๆ ที่คุณคิดไว้มันจะไปถึงจุดแห่งความสำเร็จและความฝันของคุณแน่นอน