โดยทั่วไปคนธรรมดามักคิดว่าความรักของคนสองคนนั้นยิ่งมีเวลาให้กัน ยิ่งได้อยู่ใกล้ชิดกันมากเท่าไรความรักนั้นจะยิ่งสวยงาม เติบโตและมั่นคง แต่ในความจริงแล้วกับไม่เป็นเช่นนั้นเพราะอะไร ความใกล้ชิกของคนสองคนกลับเป็นปัญหามากกว่าเป็นความสุข นั้นก็เพราะว่า
1. ต่างคนต่างก็ค่อยๆ ศูนย์เสียความเป็นตัวของตัวเองไปทีละเล็กทีละน้อย ถ้านั้นเป็นไปในทางที่ดีก็ไม่เป็นไร แต่หลายๆ ครั้งมันกลับเป็นการปรับเปลี่ยนที่ตัวตนของตัวเองไม่มีความสุข
2. ไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง เมื่อตัวติดกันอยู่ตลอด บางครั้งก็มีหลายๆ สิ่งที่ตัวเราเองหรือตัวเขาก็อยากจะทำมันคนๆ เดี่ยว มันเลยเป็นจุดเล็กๆ ที่ทำให้เกิดรอยร้าวของความสัมพันธุ์ได้ง่ายๆ
3. คาดหวังให้อีกคนเปลี่ยนแปลงเพื่อตัวเองซึ่งถ้ามันเป็นเรื่องเล็กน้อยและไม่มากเกินไปก็คงไม่ใช่ปัญหา แต่ในความเป็นจริงมันกับมีเป็นสิบเป็นร้อยเรื่องที่ถูกเรียกร้องให้ต้องเปลี่ยน และยิ่งอยู่ใกล้กันมากเท่าไรเรื่องที่ต้องเปลี่ยนต้องปรับก็มีมากขึ้นเท่านั้น
4. เมื่อไม่ยอมเปลี่ยนก็ไม่รัก เมื่อปัญหาก่อตัวจนถึงจุดๆ หนึ่งที่มันใหญ่มากพอ จะเริ่มมีใครซักคนที่ไม่อยากทนต่อความเห็นแก่ตัว และนั้นก็คือจุดจบของความรักที่มาจากความใกล้ชิดที่ไม่มีพื้นที่ว่างให้กันและกัน
ถอดบทเรียนความรัก เรียนรู้ที่จะให้อิสระและพื้นที่ว่างแก่กันและกันเพื่อให้ความรักได้มีพื้นที่เติบโตได้อย่างมั่นคง
ความรักเป็นเรื่องของคนสองคนที่อยู่ด้วยกันก็จริง แต่การใช้ชีวิตแบบตัวติดกันตลอดเวลากับสร้างความทุกข์และปัญหาได้ง่ายกว่าที่คนสองคนจะรู้สึกตัวได้ง่ายๆ การมีพื้นที่ให้แต่ละคนได้มีโอกาสทำกิจกรรมที่ตัวเองรัก มุมหนังสือเล่นอินเทอร์เน็ท เล่นเกมส์ ดูหนังอย่างอิสระตามความชอบ การทำแบบนี้จะทำให้ความรักของทั้งสองคนก้าวไปข้างหน้าได้มากกว่าเดิม
การอยู่ด้วยกันในช่วงเวลาที่ดีอย่างเหมาะสม ดีกว่าอยู่ด้วยกันตลอดเวลาและต้องมีเรื่องร้ายๆ ทุกข์สลับสุขเป็นบางครั้ง…
มีพื้นให้กับตัวเอง ให้คนที่รักได้สร้างโลกเล็กๆ ของเขาอีกใบ ไม่ต้องตัวติดกันจนเกินไป ความรักของคุณและเขาจะอยู่กันอย่างคาดไม่ถึง
ถ้ารักกันต้องยอมให้อีกคนมีเวลาส่วนตัวบ้าง
… รู้ว่ารัก แต่ไม่ต้องมาตัวติดกันตลอดก็ได้ ไม่งั้นสุดท้ายความรักมันก็ไปต่อไม่ได้อะ